ในบทความก่อนหน้าเราพูดถึงการทำโปรโมชั่นไม่จำเป็นต้องลดราคาสินค้าหรือบริการก็ได้ ในบทความนี้เรายังคงอยู่กับเรื่องราวเกี่ยวกับการทำการตลาด เรื่องราวของการเพิ่มยอดขาย ปัจจุบันการใช้คูปองถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการส่งเสริมการขาย ดังจะเห็นได้จากอัตราการใช้คูปองที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ยังคงมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เหมือนกับในช่วงเศรษฐกิจขาลง คือยังนิยมใช้คูปองในการจับจ่าย

โดยนักวิเคราะห์ต่างมีความเชื่อว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายแบบรัดเข็มขัดของผู้บริโภคจะยังคงอยู่ และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะคงอยู่แบบถาวร

จากงานวิจัยของความร่วมมือระหว่างสองสถาบันคือ Inmar และ Nielsen พบว่าอัตราการใช้คูปองในการแลกซื้อสินค้านั้นพุ่งสูงขึ้น และคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับอัตราการใช้คูปองในกลุ่มสินค้าและบริการ มีผลจากการวิจัยที่ระบุไว้ว่า อัตราการใช้คูปองสินค้าจำพวกข้าวของเครื่องใช้ทั่วไป หรือสินค้าในกลุ่ม Personal Care เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่อัตราการใช้คูปองสินค้าประเภทอาหารยังคงเท่าเดิม

จะเห็นได้ว่า อัตราการใช้คูปองเพื่อส่งเสริมการขายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการใช้คูปองนั้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า คือมีข้อดีทั้งต่อผู้ค้าและผู้บริโภค โดยทางฝั่งของผู้ค้าจะพิมพ์คูปองพร้อมโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการให้เป็นที่รู้จัก ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของผู้บริโภคก็จะสามารถใช้จ่ายได้อย่างประหยัดโดยการใช้คูปองในการแลกซื้อสินค้าหรือบริการ และคูปองยังสามารถช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคใช้จ่ายได้มากขึ้นอีกด้วย

แต่การใช้คูปองก็ไม่ใช่เพียงแต่จะมีข้อดีเท่านั้น เพราะหากผู้ค้าเลือกใช้คูปองผิดเวลาก็อาจมีผลต่อยอดขายได้ เช่น หากผู้ค้าจัดโปรโมชั่นผ่านการแจกคูปองให้กับผู้บริโภคในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับคู่แข่ง อาจทำให้ยอดขายไม่เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร และอาจทำให้สินค้าหรือบริการไม่เป็นที่สนใจของลูกค้า หรือแม้แต่การจัดพิมพ์คูปองที่อาจดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ไม่มากพอ

การใช้คูปองเป็นตัวช่วยส่งเสริมการขาย มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้ค้าจะต้องพิจารณาให้ดี สิ่งสำคัญคือการวางแผนในการจัดทำโปรโมชั่นผ่านการแจกคูปอง และการออกแบบคูปองให้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค เพื่อที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้

ข้อดี

  • สามารถดึงลูกค้ามาใช้ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าตัวใหม่ได้
  • ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าตัวใหม่ หรือกลับมาซื้อสินค้าอีกในอนาคต
  • ลูกค้าซื้อมากขึ้น
  • การแจกคูปองเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจในสินค้าตัวอื่นๆ เช่น แจกให้กับลูกค้าที่ซื้อกางเกง เพื่อนำมาใช้ซื้อกระเป๋าในร้านต่อ เป็นต้น

ข้อเสีย

  • หากการออกคูปองไม่ผ่านการวางแผนมาดีๆ จะคาดหวังผลลัพธ์ที่แน่นอนได้ยาก  มีตัวแปรหลายอย่าง เช่น มูลค่าของคูปองสามารถดึงดูดลูกค้าได้หรือไม่ ?, เงื่อนไขของเวลาในการใช้คูปอง, โปรโมชั่นของคู่แข่งในช่วงเดียวกัน เป็นต้น
  • แจกคูปองให้กับลูกค้าที่ต้องการมันจริงๆ หรือไม่ หากไม่ใช่ คูปองใบนั้นจะสูญเปล่าทันที
  • มีต้นทุนที่สูงกว่าการทำโปรโมชั่นหลายๆ อย่าง อย่าลืมคำนวนต้นทุนการพิมพ์คูปองเข้าไป
  • ต้องใช้การประชาสัมพันธ์ที่ดี พนักงานขายที่สื่อสารและแจกคูปองได้ตรงกลุ่ม

ข้อมูล : marketingoops.com และ chinphak

รูปภาพ : pixabay.com