Ultimaker ผู้นำระดับโลกด้านเครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D printing) แบบตั้งโต๊ะ ประกาศว่า Heineken ได้เลือกใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติของบริษัทในการผลิตเครื่องมือและชิ้นส่วนเครื่องจักรเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตที่โรงเบียร์ในเมืองเซบิยา ประเทศสเปน วิศวกรของ Heineken ใช้เครื่องพิมพ์ Ultimaker S5 ในการออกแบบและพิมพ์อุปกรณ์ความปลอดภัย เครื่องมือ และชิ้นส่วนตามความต้องการ โดยไม่ต้องจ้างบริษัทภายนอก จึงช่วยเพิ่มระยะเวลาการทำงานของเครื่องจักรและประหยัดต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนได้ถึง 80%

บริการรับออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ พร้อมบริการพิมพ์ดิจิตอล

โรงเบียร์ในเซบิยาผลิตเบียร์หลากหลายแบรนด์ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 500 ล้านลิตรต่อปี วิศวกรของ Heineken ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติมาราวหนึ่งปีแล้ว โดยตอนแรกใช้รุ่น Ultimaker 2+ และปัจจุบันใช้รุ่น Ultimaker S5 ที่มีขนาดใหญ่กว่าและเหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กรมากกว่า บริษัทนำเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติมาใช้งานครั้งแรกในด้านความปลอดภัย แต่ไม่นานนักวิศวกรก็พบว่าการพิมพ์ชิ้นส่วนเครื่องจักรเพื่อใช้ในสายการผลิตสามารถช่วยลดเวลาและต้นทุนได้

ปัจจุบันจึงมีการใช้งานที่หลากหลายดังนี้

  • การใช้งานเพื่อเพิ่มเวลาการทำงานของเครื่องจักรในสายการผลิต – Heineken ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร ซึ่งช่วยลดต้นทุนและทำให้มีชิ้นส่วนพร้อมใช้งานอย่างรวดเร็ว
  • ปรับปรุงการออกแบบชิ้นส่วนให้ดีที่สุด – ทีมงานสามารถปรับปรุงการออกแบบชิ้นส่วนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ชิ้นส่วนโลหะที่ใช้ในเซนเซอร์ตรวจคุณภาพในสายพานลำเลียงมักจะชนขวดเบียร์ล้ม ทำให้เกิดการติดขัดหรือทำให้ขวดที่ดีตกพื้น ชิ้นส่วนที่ออกแบบและผลิตด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงช่วยลดต้นทุนและเวลาได้
  • เครื่องมือสำหรับงานควบคุมคุณภาพและบำรุงรักษา – Heineken ได้สร้างสรรค์เครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้การบำรุงรักษาและการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์หรือเครื่องจักรง่ายขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องจักรทำงานผิดปกติหรือชำรุด
  • เพิ่มความปลอดภัยในการดำเนินงาน – ความปลอดภัยของพนักงานถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับ Heineken เพื่อดูแลพนักงานให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Heineken ได้ออกแบบและใช้ชิ้นส่วนและเครื่องมือเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การพัฒนากลไกการล็อกเครื่องจักรไม่ให้ทำงานระหว่างการบำรุงรักษา